ผ่านมา10ปีก่อนเป็นคนหยั่งทราบอนาคต น้องจ่อย ตายแล้วรู้สึกตัว หลังเจอท้าวหิรัญป่าสูร ออกรายการดัง นิ้วหลุดจนถึงหมดต่อหน้าต่อตา กรรชัย-มดดำ เปิดใจเรื่องราวในอดีต
จากกรณีก่อนหน้านี้มีการพูดถึงตำนานท้าวหิรัญป่าสูร ซึ่ง มดดำ คชาภา โฆษกดังเล่าเคยเจอเหตุกับตนเอง ขณะเป็นโฆษกร่วมรายการพร้อม ชายหนุ่ม กรรชัย ได้สนทนากับเด็กผู้ชายวัย 10 ขวบในช่วงเวลานั้น ขณะไปรักษาตัวที่รพ.พระมงกุฎ เด็กตายแล้วฟื้นขึ้นมา ระหว่างนั่งสัมภาษณ์เด็ก นิ้วเด็กหลุดทีละข้อ ต่อหน้าต่อตา มดดำ รวมทั้ง กรรชัย จนถึงอึ้ง โดยเด็กถามว่าแม่ไปตามหนูให้กลับมาเพราะอะไร เมื่อถามว่าคนไหนกันแน่ไปตามหนู เด็กได้กล่าวว่าชื่อท้าวหิรัญป่าสูร ไปตามหนูกลับมานั้น
ผ่านไป 10 ปี ล่าสุด อดีตเด็กตายแล้วรู้สึกตัว น้องจ่อย ในวัย20ปีวันนี้ ย้อนเรื่องอดีตเมื่อ10ปีที่ล่วงเลยไป ตายแล้วรู้สึกตัว ไปพบวงศ์ญาติที่เสียชีวิตที่จากไปหลายท่าน ก่อนท้าวหิรัญป่าสูร ช่วยเหลือให้กลับเข้าร่าง ตอนนี้สุขภาพแข็งแรงไม่เคยเจ็บป่วย รวมทั้งยังรู้ล่วงหน้า
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 62 หมู่ที่ 5 ตำบลมงคลธรรมนิมิต อำเภอสามโก้เก๋ จังหวัดอ่างทอง เจอนายบุญมากมาย เหมือนทอง หรือ น้องจ่อย วัย 20 ปี พร้อมครอบครัว ได้เล่าราวเมื่อ 10 ปีที่ล่วงเลยไป ถึงความพิศวงของน้องจ่อย ที่เจ็บไข้เส้นเลือดหัวใจห้องด้านล่างขวาตีบ ผนังกันหัวใจห้องด้านล่างมีรูรั่ว รวมทั้งเส้นโลหิตหัวใจเกินตั้งแต่ต้นกำเนิด เข้าออกรักษาตัวผ่าตัดที่โรงพยาบาลเด็กในจังหวัดกรุงเทพ อย่างสม่ำเสมอ
ในตอนช่วงนั้นอายุ 10 ขวบ แพทย์กระทำการผ่าตัดอีกรอบ รวมทั้งจำเป็นต้องนอนอยู่ข้างในห้องห้องดูแลผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาล ตลอดระยะเวลา 14 วัน ใช้เครื่องช่วยหายใจมาตลอด จนกระทั่งใน วันที่ 9 เดือนพฤษภาคม 2554 พยาบาลที่มาตรวจเจอว่า น้องจ่อย ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆก็ตามไม่มีความดันในร่างกาย ชีพจรไม่เต้น ตัวเย็นเฉียบ แพทย์รวมทั้งพยาบาลได้แจ้งว่าน้องจ่อยเสียชีวิตไปแล้วในตอนบ่าย
ด้าน นางสมคิด เหมือนทอง ผู้เป็นแม่ ตอนนี้อายุ 58 ปี ได้แจ้งให้ทางนายพา เหมือนทอง สามีที่อยู่บ้านที่อำเภอสามโก้เก๋ ให้รู้ว่า น้องจ่อยได้เสียชีวิตแล้ว ทางญาติได้ช่วยกันเตรียมงานเพื่อรอคอยรับศพน้องจ่อย ตระเตรียมโลงเย็น เครื่องไฟ นิมนต์พระ ดำเนินงานเลี้ยงแขกที่จะมาช่วยงานศพ รวมทั้งนำภาพน้องจ่อยตั้งอกตั้งใจศพเพื่อรอคอยรับศพน้องจ่อยออกจากโรงพยาบาลนำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
แต่ว่าได้เกิดเรื่องน่าประหลาดใจขึ้นในเวลาเย็น เมื่อทางหมอได้เข้าไปตรวจที่ศพน้องจ่อย พร้อมนำดอกไม้ธูปเทียนออกมาจากมือ เพื่อจะอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย เปลี่ยนเสื้อผ้าจะนำศพกลับไปบ้าน พบว่า น้องจ่อย เท้ากระดิกได้ ต่อจากนั้นแพทย์รวมทั้งพยาบาลก็มาดู วัดความดันก็พบว่าความดันเริ่มขึ้นมาเรื่อยๆแพทย์รวมทั้งพยาบาลก็นำตัวกลับเข้าไปกระทำการรักษารวมทั้งรอดชีวิตมาจนถึงตอนนี้
ตั้งแต่แมื่อวันนั้นถึงวันนี้เวลาก็ผ่านมา 10 ปีแล้ว นายบุญมากมาย เหมือนทอง หรือ น้องจ่อย เล่าให้ฟังว่า ในช่วงเวลานั้นตนคิดออกว่าไปอยู่อีกที่หนึ่งแต่ว่าไม่รู้เรื่องที่แห่งไหน มีแต่ว่าหมอกควัน เจอคนแต่งตัวแบบโบราณนั่งทานข้าวกันเป็นกรุ๊ปๆบางบุคคลก็มิได้รับประทาน เนื่องจากจะได้รับประทานนั้นต้องมีคนทำบุญสุนทานไปให้หรือพวกเราทำบุญสุนทานไว้ตอนมีชีวิต รวมทั้งได้เจอกับตาของตนเอง ที่ได้ตายจากไปนานแล้ว บอกกับน้องจ่อยว่า น้องจ่อยตายแล้วจึงมาอยู่ที่นี่รวมทั้งยังได้เจอกับพี่ชายที่ตายไปแล้วอีกคน ได้สนทนากับตนเองอยู่นาน
โดยได้เจอกับท้าวหิรัญป่าสูร ที่มีรูปร่างใหญ่ขี่ม้าเข้ามาหาน้องจ่อยรวมทั้งได้ช่วยเหลือน้องจ่อยให้รู้สึกตัวกลับมา ท้าวหิรัญป่าสูร กล่าวว่า ให้บอกกับพ่อของน้องจ่อยเหตุว่า ให้เอาขนุนมากระทำการแก้บน รูปปั้นท้าวหิรัญป่าสูร ที่อยู่รอบๆหลังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ต่อจากนั้นพี่ชายกับตาก็พามาส่งแล้วให้เอาดอกไม้ธูปเทียนออกมาจากมือน้องจ่อย ตนเองก็ฟื้นขึ้นมาในขณะนี้สุขภาพแข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วยเลย แต่ว่าก็มีร่างกายบางส่วนที่เป็นนิ้วมือรวมทั้งนิ้วเท้าหลุดเน่าในเวลาที่เสียชีวิตไปบางส่วน ซึ่งตอนนี้ก็ดำเนินงานได้ทุกๆอย่างรวมทั้งที่สำคัญยังรู้ล่วงหน้าว่ากำเนิดอะไรขึ้นอีกด้วย