ให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ ถึงกรณีที่มีชาวไทยรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ขับไล่ องค์การนิรโทษกรรมสากล หรือแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย
ว่ารัฐบาลให้มีการทำงานแล้วก็ให้สำรวจทางกฎหมายอยู่ว่ามีความผิดอะไรหรือเปล่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงมหาดไทย ที่มีการลงทะเบียนไว้หรือเปล่า เช่นไร ซึ่งถ้าหากไม่ถูกก็จำเป็นต้องยกเลิก สารภาพว่าเป็นแรงกดดันพอสมควร ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว สำหรับเพื่อการที่จะมาใส่ร้ายป้ายสีกับประเทศของเรา
นายกฯเผยว่า ในเรื่องขององค์กรพัฒนาเอกชนก็กำลังทำงานทางกฎหมาย สำหรับเพื่อการที่จะทำให้ราวเมืองนอก โดยต้องมีการขึ้นบัญชีควบคุม แจ้งสิ่งที่ทำให้เกิดแหล่งเงินต่างๆช่วงนี้ข้อบังคับอยู่ระหว่างไปสู่การพินิจของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทุกๆอย่างจำเป็นต้องใช้เวลาพอเพียงโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อบังคับต่างๆจำเป็นต้องปรับแต่งใหม่หมด ก่อนหน้าที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ทำให้ข้อบังคับมิได้มีการปรับแต่ง ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับหลายพันฉบับอยู่ในลำดับที่จำเป็นต้องปรับแก้ทั้งสิ้นให้สอดคล้องกับตอนนี้ เป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่คนไทยจำเป็นต้องรู้จักแล้วก็เข้าใจ
ส่วนนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ วุฒิสมาชิกบอกว่าองค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เมืองไทย เพราะว่ามีความประพฤติอยู่ในข่ายกระทบความมั่นคงของประเทศ ซึ่ง แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นองค์กรแม่ มีหลักสำหรับเพื่อการดูแลกรณีการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน แม้กระนั้นแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลในไทย เป็นองค์กรลูกที่ไม่ขวานผ่าซาก เพราะว่ายืนอยู่ฝั่งต้านทานรัฐบาล แล้วก็ไปคุ้มครองสิ่งที่ไม่ถูก ย่ำยีสิ่งที่ถูก ปฏิบัติภารกิจผิดจำเป็นต้อง ไม่ถูกหลักการ ใช้เป็นเครื่องมือทำลายประเทศตัวเองเชื่อว่าในอนาคตองค์กรก็จะล่มสลายไปซึ่งหลักการขององค์กรแม่นั้นถือว่ามีความมุ่งมั่นดี แม้กระนั้นคนนำไปยืนไม่ถูกจุด เป็นเรื่องที่โชคร้ายองค์กรมีหลักการดี แม้กระนั้นไม่ถูกที่คนปฏิบัติ
ตอนนี้แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เมืองไทยมีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นผู้ตัดสินมากมาย แล้วก็ มีการกระทบกระทั่งกับภาครัฐบาลไทยมาตั้งแต่หลังรัฐประหารในวันที่ 22 พ.ค. 2557 แม้กระนั้นไปมีความความเชื่อมโยงสนิทแน่นกับองค์กรเครือข่ายที่เป็นศัตรูกับรัฐบาล แล้วก็เชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ และยังเชื่อมโยงกับสถานเอกอัครราชทูตชาติตะวันตก องค์การสิทธิมนุษย์ชนของยูเอ็นรวมถึงชุมชนเศรษฐกิจยุโรปรวม 15 ชาติ นอกจากผูกโยงกับการรวมกันเป็นหลักแล้ว ยังเคลื่อนใส่ผสานกับสื่อมวลชนบางค่าย ที่เห็นแตกต่างจากรัฐบาล
องค์กรแอมเนสตี้สากลนั้นผู้ให้กำเนิดคือ นายปีเตอร์เบนเนนสัน ทนายความคนประเทศอังกฤษก่อตั้งในปี 2504ที่กรุงลอนดอน ในยุคที่มีสงครามเย็นระหว่างค่ายโลกเสรีกับโซเวียตรัสเซีย เรื่องราวมีเหตุมาจากรัฐบาลโปรตุเกสยุคนั้นที่เป็นเผด็จการจับนักศึกษาเข้าไปขังลืมในเรือนจำ 2 คน นาน 7 ปี นำมาซึ่งแอมเนสตี้สากลกระทั่งตอนนี้ผ่านมา 60 ปีองค์กรนี้ แม้กระนั้นแอมเนสตี้ในประเทศไทย ดูราวกับว่าทำเกินหน้าที่และไม่ได้รู้ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ซึ่งเป็นธรรมแล้ว ที่นายกรัฐมนตรีส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย สำรวจองค์กรนี้ว่าตั้งมาชอบด้วยกฎหมายหรือเปล่า ทางการคลังเป็นอย่างไร ทั้งสิ้นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการขอร้องขับไล่ไสส่งให้ออกไปจากไทยสุดท้าย