ฉากแอ็กชั่นเห็นด้วยว่าโคตรเดือด !! ทังมุมกล้องถ่ายรูปสวย ทั้งยังขนกลุ่มสตั๊นมาซัดกันคลอเคลียจำพวกไม่ว่างพักหายใจ ยกระดับจากสองภาคแรกแบบเจ๋งมาก ดูได้ทั้งยังเรื่องไม่น่าเบื่อเลย ใช้ของรอบกายได้คุ้มค่า จนถึงนึกสงสัยว่า มันมีอาวุธอะไรที่เฮียวิคใช้ไม่เป็นบ้างมั้ยวะ 555 โดยรวมแอ็คชั่นอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยมแล้ว ถึงจะมีบางฉากที่มันเฮฮาคาเฟ่แปลกๆขว้างกันไปๆมาๆอยู่โน่น มีกลิ่นอายแอ็คชั่นประเทศฮ่องกงลอยมาก็เถิด อารมณ์กระจกทุกบาน มีดทุกเล่ม ของตั้งโชว์ กุขอใช้ให้คุ้มหน่อยเท้อะ
การใช้อาวุธภาคนี้โคตรมากมาย แล้วก็มีการอัพเกรดเข้าไปอีกขั้น ราวกับเล่นเกมเก็บเวล เจอศัตรูโหดสู้ไม่ไหว ก็ไปเก็บไอเทมเทวดาๆมาจัดแจง ถูกใจตรงจุดที่ว่า ถึงจะเป็นดารานำชายก็ไม่ได้เทวดาทรูเสมอ ยังจำต้องอาศัยเครื่องใช้ไม้สอย กลยุทธดีๆเข้าช่วย แล้วก็ตำนานดินสอยมฑูตที่ว่าพีคแล้ว คราวนี้ฉีก Achievement ไปอีกขั้นด้วยตำนานมัจจุราชหนังสือ แกเปิดร้านอุปกรณ์การเรียนไปเลยก็ดีนะ ดินสอ สมุด หนังสือ ครบ !! เหลือยางลบ ถุ้ยย !!
เรื่องมุมกล้องถ่ายรูปต่อสู้นี่ภาคนี้ขาดลอยจริงๆดูแล้วยิ้มโคตรตื่นตาตื่นใจทุกฉาก แถมยังวางแบบแต่ละซีนได้น่าจำ แล้วก็มีชีวิตชีวา ทราบเลยว่าทีมงานลงทุนหนักมากมาย กว่าจะดีไซน์ฉากคิวบู๊ออกมาได้ขนาดนี้ รู้สึกได้เปิดหูเปิดตาหลายๆสถานที่ ไม่ซ้ำซากจำเจเพียงแค่เมืองนิวยอร์ค ทะเลทรายก็ไป คาซาบลังกาก็แวะ เรียกได้ว่าใจปลุกปล้ำมากมาย ไม่กั๊กกันเลยสักฉาก
จอห์นวิค3 หัวข้อนี้จัดว่ากระจายบทผู้แสดงได้ดิบได้ดีมากมาย เราจะได้พบกับหลายผู้แสดงเจ้าเดิมที่เริ่มเดินหมาก มีหน้าที่สำคัญไม่แพ้จอห์น วิค แถมยังเสริมกองทัพด้วยกรุ๊ปมือสังหารที่ทรงอิทธิพล นอกบังกะโล อย่างโซเฟียสาวสุนัขโหด เจ้าแม่โรงละคร แล้วก็แก๊งซามูไรซีโร่ อีกทั้งมีกรุ๊ปที่มีพาวเวอร์เหนือกว่า วินสตันเจ้าของบังกะโลเสียอีก เรียกได้ว่าแต่ละฉากไม่ซ้ำหน้ากันแน่ๆ แต่แอบเสียดายที่สุนัขป๋าวิคไม่ได้ออกโรงเยอะแค่ไหน จะไปเด่นที่สุนัขโซเฟียซะหมด
ด้านความโหดร้ายภาคนี้ ส่วนตัวมีความรู้สึกว่าอยู่ในระดับพอเพียงหนำใจ ก็คล้ายจอห์น วิคภาคก่อนๆเพียงแค่เลือดสาดฝาผนัง ฉากโหดพอเพียงเพียงแค่หวาดเสียว ไม่ได้โคสอัพแผล หรือแปลกออกไปเยอะแค่ไหน ป๋าวิคเริ่มภาวะราวกับสุนัขหมดปัญญา งัดแนวทางสู้แบบเปรอะเปื้อนใต้สายรัดเอวกัดนิ้ว แต่ก็ยังไม่มีซีนไหนโหดสู้ฉากดินสอภาคสองได้เลย จะว่าไปฉากสุนัขออกโรงก็แอบเสียวไข่เป็นพิเศษ 555 มองเห็นแล้วซีดเผือดส์สะดุ้งจนถึงมือลงไปปัดป้อง
สารพัดมุกเฮฮาร้าย คือสิ่งที่ไม่ค่อยมีในภาคก่อนๆแต่ภาคสามนี้บอกเลย พี่มึงใส่เข้ามาไม่ยั้ง แล้วก็ยิ้มโคตรจักจี้ขยี้ปมหนังตนเองหนักมากมาย นั่งขำนั่งฮากันไป ล้อกันตั้งแต่คิวบู๊ กฎบังกะโล การสนทนาเจรจา จนถึงไปถึงคำกล่าวจอห์น วิค เอง ซึ่งขนาดเพียงแค่คำเดียวสั้นๆ”ผมรู้เรื่อง” ก็ยังลั่นกันไปทั้งยังแถวที่นั่ง
ภาคนี้เรียกได้ว่า เปิดแมพโลกของหน่วยงานมือสังหารให้กว้างกว่าเดิมมากมาย มีระบบระเบียบยิบย่อยอีกหลายแบบ อีกทั้งมีคนจากอีกหลายกรุ๊ปที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน เริ่มมองเห็นระดับขั้นหน่วยงาน ขั้นตอนการทำงานภายในแจ่มแจ้งเพิ่มขึ้น เห็นภาพเลยว่าเพราะอะไรถึงเป็นบังกะโลมือสังหารที่บรรลุความสำเร็จมีสาขาทั่วโลกได้ ทำให้เราสัมผัสเชื่อถือได้ไม่ยากเลยว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีแบบงี้ในโลกจริงก็ได้
จุดอ่อนหนัง
เรื่องราวบางจุดของหนังรู้สึกเลยว่า มันเริ่มไปเรื่อยๆละว่ะ ผู้กำกับเริ่มหมดมุก หลุดเรื่องสำคัญไปพอควรเลย เลยเปลี่ยนเป็นว่าพอเพียงหนังจบ เรื่องราวไม่ได้เดินไกลจากภาคสองเท่าไหร่ ยังหากินอยู่กับข้อจำกัดอะไรเดิมๆที่ยังเล่าไม่ครบ เพียงแปลงโลเกชั่นเพียงเท่านั้น
การตัดสินใจของดารานำชายบางสิ่งบางอย่าง ดูไม่ค่อยเม้กเซ้นท์เลยว่ะ รวมถึงการช่วยเหลือที่เอาเข้าจริงๆก็ดูเข้าถึงง่าย แล้วก็บังเอิญเคราะห์ดี มากกว่าความเด็ดขาดของป๋าวิค มึงกลับใจได้ทุกนาทีจริงๆถึงกับยอมเสียบางอปิ้งไป ทั้งที่ตนเองก็ไม่มั่นใจจะเอาอย่างข้อจำกัดตั้งแต่แรก ก็เลยเป็นจุดที่เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่า ผู้กำกับการ มึงเริ่มสีข้างถลอกปอกเปิกแล้วนั่นเอง