นานๆครั้งที่หนังเวียดนามจะได้โอกาสเข้าฉายในโรงหนังบ้านพวกเราแบบวงกว้างและก็ได้รอบฉายออกจะเยอะ แถมยังเข้าฉายทั้งสองระบบเป็นพูดภาษาเวียดนามและก็ฉบับบรรยายไทยอีกต่างหาก
กุมารทองคำ KUMANTHONG (Thất Sơn Tâm Linh) ฉบับหนังเวียดนามประเด็นนี้ ได้รับแรงผลักดันมาจากเหตุการณ์จริงในสมัยก่อน โดยตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวอาภัพอย่าง ซอกซอย (หว่าง เอี๊ยน จีบี) สาวใบ้และก็หูหนวกที่ดำเนินชีวิตอยู่ในหมู่บ้านบ้านนอกของปากแม่น้ำโขง ชีวิตของเธอไม่มีอะไรพิเศษนัก ตราบจนกระทั่งวันหนึ่งมีชายไม่คุ้นหน้าที่เดินทางล่องเรือมาหยุดที่หมู่บ้าน เขาชื่อ ลลิว ฮวน (กวาง ต๋วน) ที่อ้างตัวเองว่าเขาเป็นหมอปราบผีและก็ร่างทรง ซึ่งเขาได้ช่วยเหลือคนในหมู่บ้านจากการโดนมนต์ดำและก็ไสยเวทหลายราย กระทั่งราษฎรเริ่มเชิดชูฮวนอย่างเร็ว
ไม่นานนักฮวนเริ่มเผลอไผลในตัวซอกซอย ทำให้เขาตัดสินใจขอเธอสมรส เริ่มต้นซอกซอยรู้สึกโชคดี แต่ไม่นานนักเธอเริ่มศึกษาและทำการค้นพบว่าความรักครั้งนี้มากับวัตถุประสงค์แฝง เมื่อเธอได้ศึกษาและทำการค้นพบว่าผัวของเธอนั้นมีสมัยก่อนอันลึกลับ และก็แผนการร้ายที่ เขาจะดำเนินชีวิตมนุษย์เซ่นสังเวยเพื่อประกอบพิธีกรรมบางสิ่งให้บรรลุวัตถุประสงค์ แล้วเธอจะเอาตัวรอดเช่นไรเมื่อค้นรอบกายไม่มีผู้ใดเชื่อ “สาวใบ้” อย่างเธอเลยสักคน
ถึงแม้กุมารทองคำ KUMANTHONGจะมีวิธีการเดินเรื่องที่มองเชยๆแต่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ใสซื่อและก็นำเสนอทุกๆอย่างแบบเถรตรง ชัดแจ้งตามสไตล์ “ภาพยนตร์ไทยโบราณ” เช่น นางเอกที่ช่วยเหลือตัวเองมิได้ สาวตัวร้ายที่เผยจริตความมารยาให้ผู้ชมมองเห็นตั้งแต่ทีแรก คนที่อยู่รอบข้างนางเอกที่มองไม่มีไหวพริบปฏิภาณ ตัวร้ายในรอยเปื้อนดารานำชาย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ถูกนำไปผูกอยู่กับวิถีแนวความคิดที่ว่า “กำเนิดเป็นหญิงโดยความเป็นจริงลำบาก” ได้อย่างน่าดึงดูด
พวกเราจะมองเห็นตั้งแต่ต้นเรื่องว่าซอกซอย เป็นสาวใบ้ที่ถูกสังคมแกล้งไม่ว่าจะเป็นเด็กๆที่มองเห็นเธอเป็นตัวขบขัน ราษฎรที่มองดูเธอ “ต่ำ” กว่าคนสามัญ (บ่อยครั้งชอบมีประโยคที่ว่า “คนเป็นใบ้จะไปรู้เรื่องรู้ราวอะไร”) แถมการที่เธอสมรสกับฮวน ยังถูกบรรดาผู้หญิงแซ่บๆคนอื่นๆ มองดูเธอว่า ผู้หญิงคนนี้มีอะไรดีกว่าตัวเองกระทั่งถูกผู้หญิงเหล่านี้ดูถูกเหยียดหยามด้วยสายตาบ่อย มิหนำซ้ำ หนังยังปรากฏฉากที่ ซอกซอยวิ่งหนีฮวนด้วยความหวาดกลัว ภายหลังศึกษาและทำการค้นพบเรื่องจริงอันน่าตกใจที่ว่าผู้หญิงที่ล่องหนไป เปลี่ยนเป็นศพนอนไม่มีหัวอยู่ใต้ถุนบ้าน การที่ซอกซอยวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากบิดา แต่โดนผัวตัวเองมาลากตัวกลับไปอยู่ที่บ้านไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างหน้าตาเฉย ฉากเหล่านี้เป็นเหตุการณ์สะท้อนหัวใจและก็ทำให้ผู้ชมเห็นอกเห็นใจตัวละครซอกซอย ว่าเธอโดนสังคมทำร้ายในทุกแบบเลยก็ว่าได้
แน่นอนว่าการที่ผู้ชมได้มองเห็นนางเอกโดนกระทำย่ำยีมาตลอดทั้งเรื่อง ช่วงจุดไคลแมกซ์ที่เธอจะต้องเอาชีวิตให้รอดจากผัวของตนเอง ก็เลยถือเป็นไฮไลท์ที่จัดได้ว่าตื่นเต้น น่าเอาใจช่วยตัวละครอย่างแท้จริง และก็ยังเผยเรื่องจริงที่ว่าสุดท้ายแล้วต่อให้สังคมรังแกเธอแค่ไหน ผู้หญิงใบ้อย่างซอกซอยก็จะต้องสู้ยิบตา เพื่อตัวเองมีชีวิตรอดถัดไป
หากใครต้องการจะลองสัมผัสหนังเพื่อนบ้านของพวกเราในโรงหนัง นี่เป็นโอกาสที่ไม่น่าพลาด เนื่องจากนานหนปีครั้งถึงจะมีความสนุกสนานจากเวียดนามมาขึ้นจอใหญ่ขอรับ