• เสาร์. เม.ย. 1st, 2023

Review ซีรีย์ ยอดนิยม เกาหลี ไทย netflix ฟรี

แนะนำซีรี่ย์แก้เบื่อช่วงอยู่บ้านกันดีกว่า เราคัดเรื่องเด็ดมา แนะนำ กับ ซีรี่ย์ Netflix 2020 มีทั้งเกาหลีและฝรั่ง ดูได้ยาวๆ เนื้อเรื่องสนุก น่าติดตาม ไปชมกันแบบยาวไป!!

แล่ 4 ข้อความสำคัญร้อน แมนยูฯ ปราบ หงส์แดง ฉลุยเอฟเอคัพ

ByValerie Myers

ม.ค. 26, 2021

“อสุรกายแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ “ลิเวอร์พูล” ลิเวอร์พูล ไปแบบสุดมัน เข้ารอบ 5 เอฟเอคัพได้สำเร็จ แล้วก็นี่คือ 4 หัวข้อหลักที่ได้มองเห็นจากเกมนี้

1.รูปเกมแลกกันเดือด คนใดพลาดโดน

แมนยูฯ ออกสตาร์ตเกมนี้ได้ออกจะดีเลยทีเดียว ได้ลุ้นก่อนถึง 2 จังหวะจากการยิงของ เมสัน กรีนวูด หนแรกยิงไปติดเซฟ อลิสสัน ครั้งที่สองหลุดเสาแรก จริงๆจังหวะแรกหากจ่ายให้ ฟาน เดอ เบค ที่วิ่งเพิ่มขึ้นมาก็บางครั้งอาจจะได้ประตูไปแล้ว แล้วหลังจากนั้นนาทีที่ 18 แปลงเป็น ลิเวอร์พูล ที่ออกนำก่อน 1-0 แบบง่ายๆเลย เมื่อ โรแบร์โต เฟอร์มิโน จ่ายบอลทะลุไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าจุดโทษก่อนชิพบอลผ่านตัว ดีน เฮนเดอร์สัน เข้าไป ถ้าว่านาทีที่ 26 แมนยูฯ ตีเสมอ 1-1 เมื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด เปิดบอลยาวจากฝั่งซ้ายไปฝั่งขวาให้ เมสัน กรีนวูด หลุดไปยิงตุงตาข่าย แล้วหลังจากนั้นแมนยูฯ ครองเกมไว้ได้หมดก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-1 ต่อกันที่ครึ่งหลัง เริ่มมาแค่ 3 นาที แมนยูฯ ขึ้นนำ 2-1 เมื่อ เมสัน กรีนวูด จ่ายบอลขึ้นมาทางซ้าย รีส วิลเลียมส์ แผงหลังดาวรุ่งลิเวอร์พูลสกัดบอลวืด เลยมาถึง แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปยิงตุงตาข่าย เกมเปิดแลกกันเดือด นาทีที่ 58 ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ เจมส์ มิลเนอร์ ตัดบอลได้ในดินแดนของยูไนเต็ดก่อนจ่ายแม้กระทั่ง เฟอร์มิโน ผ่านบอลเข้ากลาง มิลเนอร์ ผ่านหลอกให้ ซาลาห์ ยิงเข้าไป พอตีเสมอได้สำเร็จ ลิเวอร์พูล ฝ่าใส่อย่างมากเพื่อหวังเอาประตูเพิ่ม แต่ว่าการยิงของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์อาร์โนลด์ กับ ซาลาห์ โดน ดีน เฮนเดอร์สัน เซฟไว้ได้ทั้งหมด กระทั่งนาทีที่ 77 แมนยูฯ มาได้ฟรีคิกหน้าจุดโทษ แล้วก็เป็น บรูโน เฟอร์นันเดส ปั่นเข้าไปตุงตาข่าย พาอสุรกายแดงคว้าชัย 3-2 ไปในที่สุด ตีตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมได้สำเร็จ ไปพบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

liver

2.ฟาน เดอ เบค-แม็คโทมิเนย์ ทำได้ไม่ดีพอ

เกมนี้ ดอนนี ฟาน เดอ เบค ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง ดูไปดูมาเสมือนจะดีเพราะมีจังหวะเล่นบอลจังหวะเดียวแบบสวยๆให้มองเห็น จนถึงช่วยทำให้ทีมมีลุ้นทำคะแนน แต่ว่าพอเล่นไปเรื่อยๆดันค่อยๆหายไปจากเกมแล้วก็หน้าที่ออกจะน้อย แล้วก็เป็น บรูโน เฟอร์นันเดส ที่ลงมาแทนที่เขาแล้วก็เป็นคนซัดฟรีคิกเป็นประตูชัยให้อสุรกายแดงในเกมนี้ ครั้งคราว ฟาน เดอ เบค บางทีอาจต้องใช้เวลาสำหรับในการปรับพฤติกรรมให้เข้ากับระบบการเล่นของทีมอีกสักระยะ แต่ว่า โอเล กุนทุ่งนาร์ โซลชารื ทำถูกแล้วที่ให้โอกาาสเขาได้ลงสัมผัสเกมหลักๆแบบนี้ เพื่อที่จะทำให้ตัวนักเตะมีความเชื่อมั่นและมั่นใจที่จะต้อสู่สำหรับในการแย่งเก้าอี้ในทีมต่อไป ส่วน สกอตต์ แม็คโทมิเนยื วันนี้ดูเฉือยแปลกๆเข้าบอลช้าหนึ่งจังหวะตลอด ยิงจังหวะเสียประตูแรกเขาปล่อยให้ เฟอร์มิโน ได้จ่ายบอลให้ ซาลาห์ หลุดไปยิงง่ายๆไม่เพียรพยายามจะเข้าไปบีบแย่งบอลอะไร อย่างไรก็ดี น้องแม็ค ก็ยังเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมเพราะฤดูกาลนี้มันมีนัดที่เขาเล่นดียิ่งกว่าเล่นห่วยแตกนั่นเอง

3.ชอว์, แรชฟอร์ด, กรีนวูด, บรูโน สุดปัง

นัดนี้หากไม่นับจังหวะปล่อยให้ ซาลาห์ วิ่งแซงไปยิงขึ้นนำ 1-0 ถือว่า ลุค ชอว์ สะดุดตามากๆโดยยิ่งไปกว่านั้นการวิ่งขึ้นวิ่งลงแบบไม่มีหมด เพิ่มเกมรุกได้อย่างดุเดือดจนได้ขึ้นมาเปิดบอลบ่อยมาก เล่นแบบนี้น่าจะทำให้ อเล็กซ์ เตลเลส ยากมากที่จะเบียดขึ้นมาแย่งตัวจริงได้ อย่างไรก็ดีนี่เป็นสิ่งที่ทำให้มองเห็นได้ว่า การที่ยูไนเต็ดดึง เตลเลส เข้ามา นั้นทำให้ ลุค ชอว์ ยกระดับฝีเท้าขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะมีคนคอยลุ้นเบียดแย่งเก้าอี้นั่นเอง ส่วน แรชฟอร์ด บางวันดีบางวันห่วยแตก แต่ว่านัดนี้บอกเลยว่าโหดสุดๆโดยยิ่งไปกว่านั้นจังหวะเปิดบอลให้ กรีนวูด หลุดไปยิงตีเสมอนั้นเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆแล้วก็จังหวะที่เจ้าตัวได้หลุดไปยิงขึ้นนำ 2-1 ก็จบสกอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ระหว่างที่ กรีนวูด แม้จะพลาด 2 นาทีทองในช่วงต้นเกม แต่ว่าก็มาแก้ตัวยิงตีเสมอ 1-1 ให้ทีม แล้วก็ยังได้มา 1 แอสซิสต์จากการจ่ายให้ แรชฟอร์ด ยิง ต้องยกนิ้วให้การประสานงานระหว่าง กรีนวูด แล้วก็ แรชฟอร์ด ที่เข้าขากันสุดๆส่วน บรูโน ไม่ต้องบอกมากมาย ลงมาแล้วยกระดับทีมได้โดยทันที ก่อนจะซัดฟรีคิกปลิดวิญญาณพาทีมคว้าชัยไปในที่สุด

liver 2

4.แนวรับหงส์อาการหนัก-เกมรุกดีขึ้น

กล่าวได้ว่าโดนสวยมาแต่ละทีรั่วกระจัดกระจาย สำหรับแนวรับของลิเวอร์พูลที่เกมนี้จัด 4 คน จากซ้ายไปขวามี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ, รีส วิลเลียมส์ แล้วก็ เทรนต์ อเล็กซานดอร์ อาร์โนลด์ เริ่มกันที่จังหวะเสียประตูตีเสมอ 1-1 โดนโต้กลับเร็ว ไม่มีใครเข้าไปบีบบ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ได้เปิดบอลยาวจากฝั่งซ้ายไปขวาให้ เมสัน กรีนวูด หลุดไปยิงง่ายๆกล่าวได้ว่าแผงหลังหลุดกันยกแผง ส่วนจังหวะโดนแซงนำ 2-1 รีส วิลเลียมส์ ต้องรับผิดชอบไปผู้เดียวแบบเต็มๆเพราะสกัดลูกเปิดของ เมสัน กรีนวูด วืด จนถึงทำให้บอลหลุดไปถึง แรชฟอร์ด ควบพาบอลเข้าไปยิงตุงตาข่าย
ส่วนจังหวะเสียประตูที่ 3 ฟาบินโญ ต้องรับผิดชอบเพราะดันไปทำฟาวล์ในระยะที่อันตราย จนถึงถูก บรูโน เฟอร์นันเดส ซัดฟรีคิกเข้าไป ส่วนเกมรุกของลิเวอร์พูล กลับมามีชีวิตชีวาอีกรอบโดยยิ่งไปกว่านั้น โรแบร์โต เฟอร์มิโน กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ทำได้ดีเลิศๆเฟอร์มิโน จัดไป 2 แอสซิสต์แบบสวยๆส่วน ซาลาห์ ก็เรียกความเฉียบคมกลับมาได้จาก 2 ประตูที่ทำได้ในเกมนี้