1. ตัดสินใจอย่ างเฉลี่ยวฉลาด และก็รอบคอบ
ทุกๆความประพฤติจะเอามาสู่ ผลปรากฏว่าและก็คนเก่งๆจะเข้าดวงใจเรื่องพวกนี้อยู่เป็นประจำด้วยเหตุนี้พวกเขา จะคิดอย่ างรอบคอบว่า ความประพฤติบางอย่ าง จะนำมาซึ่งอะไร การตัดสินใจ
จะนำมาซึ่งคำตอบที่ดี ซึ่งเมื่อต่อยอดไปเรื่อยก็จะได้รับผลที่ยอดเยี่ยม ในที่สุดสิ่งที่พวกเราควรเริ่มทำวันนี้คือการคิดให้รอบคอบ ถึงสิ่งที่พวกเราจำต้องตัดสินใจ ว่ามันถูกหรือผิด คุ้มหรือเปล่าและก็มันจะเป็นประโยชน์ กับพวกเราในอนาคตอย่ างไรนั่นแหละ
2.ศึกษาจากข้อผิดพลาด
คนเก่งๆก็ผิดพลาดได้นักธุรกิจหลายคน เคยล้มเหลวเจ๊ง หรือ ไม่ก็ถึงขั้นล้มละลาย เป็นหนี้เป็นสิน เป็นสินมากก่อนแต่ว่าเหตุการณ์พวกนี้ ได้ให้บทเรียน กับพวกเขาจนกระทั่ง รู้ดีว่าจำเป็นจะต้องทำอย่ างไร ในอนาคต เพื่อปรับปรุงหรือลักโอกาสที่พวกเขาเห็น จากข้อผิดพลาด และก็โน่น เป็นสิ่งที่พวกเราควรจะทำตามอย่างด้วยเหมือนกัน
3.ไม่ได้ทราบคำตอบทุกอย่ าง
คนเก่งๆไม่ได้เป็นข้ารูเสมอไป (อันที่จริงก็น้อยคนที่จะเป็นข้ารูจริงๆนั่นแหละ) และก็เอาจริงเอาจังๆการที่กล่าวว่าตัวเอง ทราบไปทุกอย่ าง ก็มีแต่ว่าจะทำให้ เกิดอีโก้เก๋เสียเปล่าๆครั้งคราวสิ่งจำเป็นกว่า
การนั่งจุดโฟกัสว่าคุณทราบอะไรแล้วทำให้คุณกระปรี้กระเปร่า คือการเห็นว่าคุณยังไม่รู้จักอะไรเพราะโน่น คือจุดอ่อนของคุณ และก็เป็นโอกาสพัฒนาตัวเองของคุณ ด้วยเหมือนกัน
4.รุมล้อมด้วยคนเก่งๆด้วยกัน
สังคมรอบข้างมีส่วนสำคัญกับตัวเรา ไม่มากก็น้อย (แต่ว่าจากประสบการณ์ ของผมนั้น มีมากเลยทีเดียว)ด้วยเหตุนี้ หากคุณรุมล้อมด้วยคนเก่งๆแล้วมันก็เป็นสิ่งจูงใจ ให้ท่านได้ศึกษา และก็เปลี่ยน กับคนเก่งๆด้วยกัน
ซึ่งถือได้ว่าเป็นการศึกษาที่ดีบุคลากรเก่งๆจึงมักจะอย ากดำเนินงานในบริษัทที่มีคนเก่งๆเป็นปกติเพราะโน่นจะมีผลต่อทัศนคติและก็ความนึกคิดของพวกเขานั่นเอง
5.ใช้สิ่งที่มีอยู่ได้คุ้ม
คนเก่งๆบางทีก็อาจจะไม่ใช่คนที่มีของหรือเครื่องไม้เครื่องมือมากมายที่สุด แต่ว่าคือคนที่รู้ดีว่า ข้าวของรอบตัวรวมไป ฃถึงทรัพย ามือที่มีอยู่ให้คุ้มที่สุด ได้อย่ างไร จะทำอย่ างไร ให้ของที่มีอยู่สามารถรีดเร้น สมรรถนะ
ออกมาได้มากที่สุดหรือสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆได้อย่ างไร ซึ่งมันน่าจะดีหากพวกเราเริ่มมองเห็นว่าของที่พวกเรามีอยู่นั้น สามารถที่จะนำมาใช้เพื่อทำอะไรได้บ้าง ที่จะเพิ่มประสิทธิ ภาพของตัวเรา
6.สามารถบอกเหตุผลต่างๆได้
สิ่งที่พวกเราควรศึกษาจากคนเก่งๆคือพวกเขาไม่ได้มี เพียงแค่ความสามารถ เพียงอย่ างเดียวแต่ว่าพวกเขาสามารถจะอธิบายสิ่งต่างๆอย่ างเป็นเหตุสำเร็จได้
ส่วนหนึ่งส่วนใดเพราะการเป็นเหตุสำเร็จนี่แหละ ที่ทำให้วิธีการคิดของเขารอบคอบเป็นระบบกฎระเบียบ จนกระทั่งสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆได้มากกว่าคนทั่วๆไป
7.ไม่ตามกระแสจนกระทั่งเหลือเกิน
การเห่อตามกระแสในหลายๆครั้งจะทำให้มนุษย์เราหลุดจุดโฟกัสที่ควรมีมันจึงจะดีมากกว่าที่พวกเรารู้ดีว่าอะไรบ้างที่จะต้องเป็นสิ่งที่ตัวเราควรให้ความเอาใจใส่สูงที่สุด การรู้จักกระแสเป็นเรื่องที่ดี
แต่ว่าก็ไม่ได้จำเป็นต้องโจนไป โดยไม่ได้รู้เท่าทันเพราะหลายๆคราว ก็บางทีก็อาจจะเป็นการเสียเวลา โดยใช่เหตุด้วย เหมือนกัน
8.ดำเนินชีวิตแบบเพียงพอ
คำว่าเพียงพอที่ตรงนี้ไม่ได้แสดงว่า ออมหรือ ถึงขั้นขาดแคลนหรอกนะ ครับผม ด้วยเหมือนกัน ที่คนเก่งๆพวกนี้มักมีหน้าที่การงานที่ดี มีฐานะทางการเงินสูงกว่าคนทั่วๆไปด้วยซ้ำ แต่ว่าโน่นก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะดำเนินชีวิตจำพวก ฟุ่มเฟือยเกินตัว (ซึ่งมักเป็นสิ่งที่หลายคนทำ เมื่อมีฐานะดีขึ้น)
9.พวกเขาคือศัตรูของตัวเอง
สิ่งที่คนเก่งๆมักมีกันคืออีกด้านหนึ่งของพวกเขา ซึ่งถูกมองว่า เป็นจุดอ่อน บ้างก็เป็นเพราะความสุดขีดในเรื่องบางเรื่องแต่ว่าก็นั่นแหละที่สิ่งพวกนี้ ทำให้พวกเขา เป็นคนสุดขีดในอีกทางหนึ่งที่ทำให้พวกเขาเก่งด้วยเหมือนกัน (ทดลองดูกรณี ของสตีฟ จ็อบส์ ก็ได้ครับผม)
10.ไม่ได้จะต้องเสร็จเสมอไป
แนวทางการทำธุรกิจต่างๆเป็นเรื่องที่ย าว และก็สม่ำเสมอ ซึ่งมันไม่ได้วัดกัน เพียงแค่การตัดสินใจเพียง เพียงแค่ครั้งสองครั้งซึ่งแน่ๆว่าตลอดเส้นทาง ก็ย่อมมีขึ้นมีลง เป็นปกติ คนเก่งๆเองก็ด้วยเหมือนกันซึ่งโน่น ก็จะเหมือนกับข้อข้างต้น ว่าพวกเขา ก็มีถูกมีผิด และก็จำต้องศึกษากันไป นั่นแหละ
