10 ชั้นหนังไทย ที่คนไทยชอบดูมากถึงมากที่สุด กลับสู่ 90S ด้วยโปรแกรมหนังไทยดีๆ สำหรับผู้ใดกันที่นึกถึงหนังไทย ต้องหาหนังเก่าๆมาดูเพื่อย้อนความหลังให้หายนึกถึงกันหน่อยน๊า
10.ชั่วฟ้าดินสลาย
หนังฟอร์มยักษ์ของค่ายใบโพธิ์ สหมงคลฟิล์ม จากวรรณกรรมอมตะของ “มาลัย ชูพินิจ” ผลงานการดูแลโดย “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” ที่พาผู้ชมย้อนยุคไปพบกับเรื่องโศกเศร้าความรักอันน่าพิศวงและสะเทือนอารมณ์ ของตัวละคร “หาย หม่อง” “ยุพดี” “พะโป้” ท่ามกลางฉากธรรมชาติอันงามและงานโปรดักชั่นคุณภาพ แม้กระนั้นดูแล้วรายได้ยังไม่ค่อยประทับ ใจเท่าไรนักเมื่อเทียบกับหน้าหนังและการโปรโมต
9.หลวงพี่เท่ง 3
มาภาคนี้พร้อมกับหลวงพี่อารมณ์จี๊ดและลูกศิษย์อารมณ์ขัน นำทีมโดย หลวงพี่น้อย (น้อย วงพรู) และ พระยอดเยี่ยม (อุ๋ย บุดดาเบลส) หนังไทยแนวธรรมะ ขำเป็นหมู่คณะจากค่ายเมืองหลวงฟิลม์ที่ยังคงมอบรอยยิ้มโดยตลอดถึงแม้รายได้ จะสู้ภาคแรกๆไม่ได้ก็ตาม
8.แฟนฉัน
ถ้าหากเทียบกับยุคเดียวกันแล้ว คงไม่ผิดถ้าเกิดพูดว่า แฟนฉัน เป็นภาพยนตร์ที่ท้ากรอบความเชื่อเดิมๆของอุตสาหกรรมหนังไทยมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ตั้งแต่การหยิบหัวข้อเด็ก ซึ่งเป็นเยี่ยมในตระกูลหนังอาถรรพณ์ที่ทำแล้วมีโอกาสเจ๊งมากกว่าเยี่ยมขึ้นมาทำ รวมทั้งการใช้ผู้กำกับคนใหม่พร้อม 6 คน ซึ่งไม่มีที่แห่งไหนในโลกเคยทำมาก่อน
7.กลิ้งไว้ก่อน พ่อสอนไว้ (ฟิล์ม 35 มม.)
ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของกรุ๊ป “หินเกลือก” กรุ๊ปนักเรียนผู้ชายมัธยมปีที่ 6 ที่มัวแต่ก่อเรื่องเกเร คนอื่นๆ แม้กระนั้นเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในช่วงสุดท้ายของวัยมัธยม กลับทำให้พวกเขาได้ทำความเข้าใจถึงบทเรียนสำคัญ ของชีวิต ภาพยนตร์ประสบผลสำเร็จจนได้รับการบันทึกว่าเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ทำรายได้มากเกินกว่า 25 ล้านบาท และเป็นต้นแบบให้เกิดหนังไทยทำนองเดียวกันขึ้นมาอีกเพียบเลย จนถึงเกิดเป็นยุคทองของหนังวัยรุ่นไทย
(ฉายในระบบฟิล์ม 35 มิลลิเมตร
6.โลกทั้งใบให้นายคนเดียว (E)
หนังวัยรุ่นระดับปรากฏการณ์ที่ยุค เล่าเรื่องราวของ ไม้ หนุ่มวัยโจ๋ที่จำต้องมาดำเนินการซ่อมแซมรถยนต์แทนพ่อที่ล้มป่วย เพื่ออุปการะให้ เม่น น้องชายได้เรียนหนังสือ เมื่ออาการของพ่อทรุดหนัก โบ้ พี่น้องจอมเกเรจึงออกปากเชิญให้ไม้เข้าแก๊งลักรถยนต์ที่มี โต เป็นหัวหน้า วันหนึ่งเมื่อแผนเกิดผิดพลาด โตจึงมาตามล่าไม้ถึงหน้าบ้าน โดยมีเป้าหมายรวมทั้ง เม่น และ ป้อน หญิงสาวลำดับที่สองพี่น้องหลงรัก
5.ตุ๊กกี้ เจ้าหญิงขายกบ
กระทันหันนั้นเองร่างของหญิงสาวสวย รูปร่าง เตี้ย ล่ำ ผิวพรรณงามคล้ายกับเหมือนกบ อ๊บ…อ๊บ ก็ปรากฏบนหน้ากระจก หล่อนเป็นแม่ค้าต่างประเทศนามว่า “ตุ๊กกี้” (ตุ๊กกี้ ชิงร้อย-บุตรสาวรัตน์ บุตรประพรม) ความสามารถพิเศษเพาะเลี้ยงกบได้ไซซ์ขนาดใหญ่ยักษ์ ในแบบที่ไม่เคยมีผู้ใดกันทำเป็นมาก่อนที่สำคัญแถมยังพูดคุยกับกบรู้เรื่อง บางวันบ่นพึมพำกับกบยักษ์ในกะละมัง แม้กระนั้นเมื่อจำต้องปะทะคารมกับบรรดาเหล่าแม่ค้าในตลาด หล่อนก็แอบเผลอปาปากบใส่แทนอาวุธประจำกายไปบ้างในบางครั้ง และบางเวลาก็เผลอใจจูบปากกบ เนื่องจากหวังลึกๆวันใดวันหนึ่งกบจะแปลงเป็นเจ้าชายสุดหล่อขึ้นมาในบัดดล ตามแบบฉบับเทพนิยายเมื่อจูบกบ กระทันหันกบจะเปลี่ยนร่างเป็นเจ้าชาย ส่วนตุ๊กกี้ตั้งอกตั้งใจบรรจงจูบกบ แม้กระนั้นดันหยิบผิดแปลงเป็นจูบตัวเงินตัวทอง แล้วหล่อนก็กลายเป็นเจ้าหญิงขึ้นมา
4.รองต๊ะ แล่บแปล๊บ
ทัช ฝันจะเป็นแชมป์การแข่งขันชิงชัยเต้น แม้กระนั้นนักเต้นคู่อริของเขานั้นมีฐานะและอิทธิพลเหนือกว่า จนตราบเท่าเขาได้รองเท้าเก่าคู่หนึ่งซึ่งเกิดมีชีวิตขึ้นมาข้างหลังถูกฟ้าผ่า และสามารถปรับปรุงให้ทัชกลายเป็นนักเต้นชั้นยอดเยี่ยม แม้กระนั้นในวันก่อนแข่ง รองเท้าคู่ใจของเขากลับถูกทำลายเยิน ทัชจึงชั่งใจว่าจะลงแข่งไหมเมื่อปราศจากความหวังใดคงเหลืออยู่
3.สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่า…รัก
“สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่า…รัก” บางทีอาจไม่ใช่หนังไทยที่สมบูรณ์แบบ แม้กระนั้นน่าเชื่อว่าไม่ว่าผ่านเวลาไปนานเพียงใด คนรุ่นที่ยังทันได้ชมชอบยังจำความซาบซึ้งได้ไม่เสื่อมคลาย ความซาบซึ้งนั้นบางทีอาจรวมทั้งความหอมหวานในอดีตกาลที่ไร้วี่แววจากปัจจุบัน อดีตกาลที่ไร้ซึ่งเครือข่ายสังคม อดีตกาลที่ไร้ซึ่งสมาร์ตโฟน อดีตกาลที่ทั้งหมดทุกอย่างดูเฉื่อยแม้กระนั้นเต็มไปด้วยความจำ และอดีตกาลที่ตอกย้ำซ้ำเติมว่าพวกเราทุกคนต่างก็มี “พี่โชน” ของตัวเองร่วมกันทั้งนั้น
2.องค์บาก 3
ท่ามกลางบ่วงบาปที่ยังคงวนเวียนต่อไป ขณะนี้ร่างที่ไร้ชีวิตของผู้ชายนักสู้ผู้เป็นตำนานได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูลถูกลำเลียงย้ายส่งต่อไปยังหมู่บ้านอโรคยา ที่ในอดีตกาลเทียนและ “พิม” (จ๊ะคะ พริมตา) เคยดำเนินชีวิตเติบโตทำความเข้าใจเรื่องสมุนไพรใบยาบ่มเพาะสมาธิ ซับวิชาโขนการฟ้อนรำ โดยมีเหล่าผู้คนในหมู่บ้านทั้งสิ้นไม่เว้นแม้กระทั้งเด็กตัวเล็กๆคนเฒ่าคนแก่ หรือจนกระทั่งคนวิปลาสที่ขาดสติแม้กระนั้นไม่เคยเป็นพิษภัยกับผู้ใดกันอย่าง “ไอ้เหม็น” (หม่ำ จ๊กม๊ก) ก็ต่างมาร่วมกันหลอมจิตเลื่อมใสรวมเป็นเยี่ยมช่วยเหลือกันหล่อพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเพื่อส่งจิตระลึกให้เทียนฟื้นคืนสติกลับมามีชีวิตอีกรอบ ช่วงเวลาที่พิมเองได้นำเอาท่าทางการฟ้อนรำดัดตัวตามรูปแบบของการฟ้อนรำโขนโบราณมาช่วยสำหรับเพื่อการรักษาบำบัดร่างกายที่หมดลง โดยมี “ครูบัว” (นิรุตติ์ ศรีจรรยา) ที่ปัจจุบันแปลงเป็น “พระบัว” เปิดช่องให้เทียนได้เริ่มต้นไปสู่สมาธิเพื่อฝึกฝนควบคุมร่างกาย อบรมบ่มนิสัยสภาวะจิตให้นิ่ง ทำความเข้าใจ และต่อสู้กับด้านมืดในใจเพื่อบรรลุถึงจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่หลับใหลหลอมหลวมกับ “พลังเลื่อมใสอันแรงกล้า” จากธาตุธรรมชาติอีกทั้ง4 “ดิน น้ำ ลม ไฟ” ผสมจนถึงก่อให้เกิดการศึกษาค้นพบ “นาฏยุทธ์” ศาสตร์และศิลป์การต่อสู้อันทรงอานุภาพอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
1.กวน มึน โฮ
หนังชื่อโดน แถมยังอาศัยกระแสเกาหลีฟีเวอร์ บวกกับเป็นหนังของบริษัทภาพยนตร์ฟีลกู๊ดอย่างจีทีเอช “กวน มึน โฮ” ก็เลยได้แชมป์หนังทำเงินปีนี้แบบสบายๆอาจเกิดจากแบบอย่างหนังเอาทิ้งมาโดน และใครๆก็ต้องการพิสูจน์ภาพยนตร์แนวโรแมนติกของคนไม่รู้ กันแม้กระนั้นรักกันว่าจะคืออะไร นอกจากนี้หนังหัวข้อนี้ยังแจ้งเกิดนางเอกร้อยล้านคนใหม่อย่าง “หนูที่นา-หนึ่งลูกหญิง” อีกด้วย