• ศุกร์. มี.ค. 24th, 2023

Review ซีรีย์ ยอดนิยม เกาหลี ไทย netflix ฟรี

แนะนำซีรี่ย์แก้เบื่อช่วงอยู่บ้านกันดีกว่า เราคัดเรื่องเด็ดมา แนะนำ กับ ซีรี่ย์ Netflix 2020 มีทั้งเกาหลีและฝรั่ง ดูได้ยาวๆ เนื้อเรื่องสนุก น่าติดตาม ไปชมกันแบบยาวไป!!

Clubhouse คืออะไร ทำไมถูกแบนในจีน

ByValerie Myers

ก.พ. 18, 2021

“ค่ายปรับทัศนคติ” ที่เขตซินเจียงของจีนมีจริงหรือไม่ ไต้หวันควรได้รับเอกราชจากจีนหรือเปล่า หัวข้อสนทนาเหล่านี้กำลังเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงผ่านแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียชื่อ คลับเฮาส์ (Clubhouse) ที่คนใช้เสียงคุยกันอย่างเดียว และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในขณะนี้

จึงไม่น่าฉงนใจที่ปัจจุบันคนในจีนไม่อาจจะใช้แอปพลิเคชันนี้ได้แล้ว
แอปพลิเคชันนี้เป็นอย่างไร
คลับเฮาส์เป็นแอปพลิเคชันที่ยังใช้ได้เฉพาะในหมู่คนใช้โทรศัทพ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ไอโฟนเท่านั้น รวมทั้งจำต้องได้รับ “คำเชิญชวน” จากคนที่ใช้แอปฯ อยู่แล้วเท่านั้นถึงจะเข้าไปใช้เพื่อคุยกันทางเสียงเท่านั้น ลักษณะก็จะคล้ายๆครึ่งวิทยุสื่อสาร ครึ่งห้องสำหรับประชุมออนไลน์ เหมือนกับคุณกำลังฟังพอเพียงดคาสต์แบบใหม่ๆแต่ก็สามารถเข้าไปคุยได้ด้วย
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะด้านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือเซ็นเซอร์ทาวเวอร์ (Sensor Tower) นับถึงวันที่ 31 เดือนมกราคม พบว่ามีการดาวน์โหลดแอปฯ นี้ไปแล้ว 2.3 ล้านครั้งด้วยกัน ภายหลังจากเปิดตัวเมื่อ พฤษภาคม ที่แล้ว โดยตอนนั้นราคาของเครือข่ายเครือข่ายสังคมนี้อยู่ที่เกือบ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา แต่มีแถลงการณ์ว่าเมื่อไม่นานมานี้ ขยับขึ้นไปสัมผัสพันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา แล้ว
ในเชิงเคล็ดลับแล้ว แอปฯ นี้มีมาตรการรักษาความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่ง เพราะไม่มีวันเลือกให้คนอัดเสียงบทสนทนาเอาไว้ได้ แต่ก็มีกรณีที่มีคนแอบอัดเสียงเจรจาของคนดัง แล้วเอาไปอัปโหลดลงยูทิวบ์ในคราวหลัง
ขณะนี้คนดังในสหรัฐอเมริกา เริ่มหันมาใช้แอปฯ นี้มากยิ่งขึ้นอาทิเช่น โอปราห์ วินฟรีย์ เดเกลื่อนกลาด รวมทั้งจาเรด เลโต จากที่เคยใช้กันในหมู่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีรวมทั้งนักลงทุน ในแถบซิลิคอนแวลลีย์ของสหรัฐอเมริกา เท่านั้น ตราบจนกระทั่งยอดดาวน์โหลดพุ่งเป็นเท่าตัวหลังอีลอน มัสก์ รวมทั้งมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เริ่มใช้แพลตฟอร์มนี้ด้วย
ช่องโหว่


ที่ผ่านมาคนในจีนสามารถใช้แอปฯ นี้ได้จนถึงเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว โดยในระหว่างช่วงสั้นๆนั้น คนได้ถือโอกาสใช้ “ช่องโหว่” นี้ คุยกันถึง “เรื่องต้องห้าม” ไม่ว่าจะเกิดเรื่องชาวอุยกูร์ในซินเจียง การปราบผู้คัดค้านฮ่องกง หรือความเกี่ยวพันระหว่างไต้หวันกับจีน
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเข้าอินเทอร์เน็ตจริงๆ” หญิงจากจีนแผ่นดินใหญ่คนหนึ่งแถลงการณ์ในห้องสนทนาหนึ่ง
บีบีซีมีโอกาสได้เข้าไปฟังบทสนทนาพวกนี้ด้วย อย่างในห้องสนทนาที่ชื่อ “Everyone asks Everyone” เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน คนจากทั้งจีนรวมทั้งไต้หวันร่วมคุยกันด้วยภาษาจีนกลาง ไม่ว่าจะเกิดเรื่องประโยชน์ซึ่งมาจากประชาธิปไตยในประเทศที่คนพูดภาษาจีน ความเป็นไปได้ที่จีนจะมาผนวกไต้หวันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอย่างเป็นทางการ ไปจนถึงเรื่องเฉพาะบุคคล
ท่ามกลางความเคร่งเครียดระหว่างจีนกับไต้หวันรวมทั้งฮ่องกง นี่ไม่ใช่การเกิดที่เกิดขึ้นบ่อยมาก เพราะจีนใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนสำหรับในการคัดเลือกกรองรวมทั้งตรวจสอบข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตของประชากร ซึ่งนักวิพากษ์วิจารณ์เรียกเครื่องไม้เครื่องมือพวกนี้แบบเสียดสีว่า “กำแพงไฟร์วอลล์เมืองจีน” (great firewall)
ขณะนี้ ถ้าคนที่ติชมเมืองบนแพลตฟอร์มที่ยังใช้ได้ในประเทศอย่างเว็บไซต์ เว่ยป๋อ (Weibo) รวมทั้งแอปพลิเคชันวีแชต (WeChat) ก็บางทีอาจถูกทางการจัดการได้ แต่ในช่วงสั้นๆที่คนในจีนสามารถใช้คลับเฮาส์ได้ ไม่มีการเซ็นเซอร์เนื้อหาการพูดคุยแต่อย่างใด ทำให้คนก็รู้สึกไม่มีอันตรายในระดับหนึ่งเพราะไม่มีวันเลือกให้คนอัดเสียงบทสนทนาเอาไว้ จนถึงจุดหนึ่งมีคนเข้าร่วมในห้องสนทนาดังที่กล่าวมาข้างต้นพร้อมกันถึง 5 พันคน
“ว่ากันตรงๆมันก็มีการโฆษณาชวนเชื่อกันทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ เพราะเหตุไรเราไม่บากบั่นมารู้เรื่องกันและกันให้มากเพิ่มขึ้น เห็นใจกัน รวมทั้งให้การสนับสนุนกัน” หญิงจากไต้หวันคนหนึ่งกล่าว
เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว มีห้องสนทนาชื่อ “มีค่ายกักกันที่ซินเจียงหรือไม่” (Is there a concentration camp in Xinjiang?) ที่คนเข้าไปถกเถียงกันนานถึง 12 ชั่วโมง ฟรานซิส (นามสมมติ) ซึ่งเป็นผู้ผลิตกลุ่มบอกกับบีบีซีว่า กลุ่มนี้ไม่ได้มีเพื่อตั้งคำถามว่าค่ายกักกันมีจริงหรือไม่ แต่เพื่อให้คนมีให้ความเห็นที่ไม่เหมือนกันต่อแนวทางของจีนในเขตดูแลซินเจียง
“ผู้ฟังที่เป็นคนจีนเชื้อสายฮั่นคนไม่ใช่น้อย ซึ่งเคยไม่เชื่อว่ามีค่ายพวกนี้จริง รู้สึกร่วมไปกับคำกล่าวเรื่องราวชีวิตจากปากชาวอุยกูร์รวมทั้งรู้เรื่องสุดท้ายว่ามีเรื่องมีราวอำมหิตขนาดไหนเกิดขึ้น นี่บางทีอาจเป็นความสำเร็จสูงสุดของกลุ่มเจรจานี้” ฟรานซิส ซึ่งเป็นเป็นนักทำหนังคนจีนเชื้อสายฮั่นที่อาศัยอยู่ในนครลอสแอนเจลิส กล่าว
ข้อวิตกกังวล
ช่วงเวลาที่แอปฯ ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นแต่ก็เริ่มมีความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจมากเพิ่มขึ้นด้วยเหมือนกันโดยคนติชมว่าไม่มีมาตรการควบคุมผู้เข้าร่วมบทสนทนา
เมื่อเดือน เดือนธันวาคม เคเกลื่อนกลาด เจนรับประทานส์ เขียนเนื้อหาของบทความลงในเว็บไซต์วัลเชอร์ (Vulture) ว่า ถ้าคนที่สร้างกลุ่มรวมทั้งคอยควบคุมบทสนทนาไม่ระวัง การพูดคุยก็บางทีอาจกลายเป็นการโจมตีกันและกันได้
เขาบอกอีกว่า จำต้องรอดูกันถัดไปว่าคนเพียงแค่พึงพอใจแอปพลิเคชัน ที่ในระดับหนึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการเลียนแบบประสบการณ์การแชตออนไลน์กับคนที่ไม่รู้จักในสมัยทศวรรษ 90 เพียงแค่เพราะในตอนนี้เราจำต้องอยู่กับบ้านรวมทั้งรู้สึกเหงาหรือไม่
Clubhouse ในไทย
แอปพลิเคชันนี้กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนไทยเยอะขึ้นด้วยเหมือนกัน ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ใช้เครือข่ายสังคมรวมทั้ง “อินฟลูเอนเซอร์” ในโลกออนไลน์คนไม่ใช่น้อยโพสต์ข้อความบอกกล่าวประสบการณ์การเข้าร่วมหรือเป็นเจ้าภาพ (โฮสต์) การคุยในหัวข้อต่างๆในคลับเฮาส์ อาทิเช่น สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ เปิดห้องสนทนาหัวข้อ “วิธีเปลี่ยนใจกองเชียร์ทหาร” รวมทั้ง ปวิน สว่างตระกูลพันธ์ นักวิชาการรวมทั้งผู้ลี้ภัยการเมือง เปิดห้องสนทนาเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์รวมทั้งในหลวงรัชกาลที่ 10
นักการเมือง นักวิชาการ นักวิพากษ์วิจารณ์รวมทั้งสื่อมวลชนที่เป็นที่รู้จักจำนวนไม่น้อยขึ้นเรื่อยต่างก็ดาวน์โหลดคลับเฮาส์มาใช้รวมทั้งเข้าร่วมการคุย
เมื่อเร็วๆนี้ยังมีผู้ตั้งบัญชีทวิตเตอร์ @ClubhouseTh ซึ่งไม่ได้เป็นบัญชีทางการของแอปพลิเคชัน เพื่อเป็นช่องทางให้บรรดาเจ้าของงานห้องสนทนาคลับเฮาส์ โฆษณาห้องสนทนาของตนเอง ซึ่งปรากฏว่ามีการโฆษณาห้องสนทนาในหัวข้อที่มากมาย ตั้งแต่เรื่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษ การเมืองในเมียนมา แชร์ประสบการณ์เลวร้ายสำหรับในการดำเนินการ ไปจนถึงเรื่องดูดวงรวมทั้งไสยเวท
ทวิตเตอร์ @ClubhouseTh ยังให้ข้อมูลเพราะห้องสนทนาของ ดร.ปวิน เกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 10 ช่วงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ “สร้างการเกิดใหม่กับการนำห้องคลับเฮาส์เต็มถึง 2 ห้องๆละ 6 พันคน ยอดฟังกว่า 1.2 หมื่นคน”